เทคโนโลยีหุ่นยนต์บริการเชิงพาณิชย์ ได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้น นับจากเมื่อปี 2019 ได้มีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือ Covid-19 ธุรกิจทุกประเภทรวมถึงธุรกิจร้านอาหารจำเป็นต้องปรับตัวเพื่อให้สามารถดำเนินกิจการไปต่อได้ โดยนำนวัตกรรม เทคโนโลยีมาปรับใช้กับธุรกิจมากขึ้น โดยเฉพาะ "เทคโนโลยีหุ่นยนต์บริการ" หรือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร" นั่นเอง ช่วยรักษาระยะห่างระหว่างพนักงานและลูกค้า ลดการสัมผัสโดยตรงกับผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่งในปัจจุบันหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารได้รับความสนใจและมีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี บทความนี้จะพาคุณมารู้จักกับหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารยอดนิยมที่ร้านอาหารต่างเลือกใช้ และ 5ข้อดี เมื่อใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารช่วยบริการในร้าน
หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร รุ่นยอดนิยม
1. BellaBot
รุ่นแรกจะเป็นรุ่นที่นิยมทั้งในไทยและต่างประเทศ เป็นหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ที่มีรูปลักษณ์คล้ายแมว นั่นก็คือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารพรีเมี่ยม รุ่น BellaBot" ดึงดูดสายตา และโต้ตอบด้วยการแสดงสีหน้าหลากหลายอารมณ์ เรียกได้ว่าถูกออกแบบให้เหมือนแมวอย่างสมจริงมากๆ
จุดเด่น BellaBot
- โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดต้อนรับ, โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดวันเกิด, โหมดส่งคืนจาน
- ถาดกว้าง และแข็งแรง ทำมาจากวัสดุเกรดอากาศยาน
- ถาดอัจฉริยะ รับน้ำหนักได้สูงสุดถึง 10 กิโลกรัมต่อถาด
- ถาดมีระบบเซนเซอร์ตรวจจับ กรณีลูกค้าหยิบผิดถาด จะมีไฟและเสียงแจ้งเตือนอัตโนมัติ
- เคลื่อนที่ในพื้นที่ระบบแคบสุด 70 เซนติเมตร
- มี Ridar และ Sensor ที่แม่นยำ ปลอดภัย
- เชื่อมต่อกับ Pudu Pager และ การเรียกผ่านแอพได้
ฺBellaBot เหมาะกับใคร ?
- ร้านอาหาร
- ร้านบุฟเฟ่ต์
- คาเฟ่
- โรงเรียน
2. KettyBot
หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารขนาดเล็กของเรา ขอบอกเลยว่า จัดว่าเด็ด! นั่นคือ "หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารและโฆษณา รุ่น KettyBot" เป็นรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น เพราะสามารถทำงานได้หลากหลายหน้าที่ในเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นการเสิร์ฟ การประชาสัมพันธ์ โปรโมท จนได้สโลแกนประจำตัว "จิ๋ว แต่ แจ๋ว" !!
จุดเด่น KettyBot
- ขนาดเล็ก กระทัดรัด เคลื่อนที่ในพื้นที่แคบสุดเพียง 55 เซนติเมตร
- หน้าจอโฆษณา ขนาด 18.5 นิ้ว รองรับไฟล์ภาพนิ่งและวิดีโอ
- โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดต้อนรับ, โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดวันเกิด, โหมดแด๊นซ์
- มีระบบกันสั่นสะเทือน
- แบตเตอรี่ใช้งานต่อเนื่องสูงสุด 8 ชั่วโมง
- มีระบบ Auto Charge
- เชื่อมต่อกับ Pudu Pager และ การเรียกผ่านแอพได้
KettyBot เหมาะกับใคร ?
- ร้านอาหาร
- คาเฟ่
- บาร์
- ร้านบาร์บีคิว
- โรงแรม
- โรงพยาบาล
3. PuduBot 2
หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารอเนกประสงค์ รุ่น PuduBot2 เป็นรุ่นที่ถูกอัพเกรดมาจากรุ่นเดิม คือ PuduBot มีถาดกว้างและแข็งแรงที่สุด หลายคนอาจจะเห็นกันมาบ้างแล้วในร้านอาหารชั้นนำ เช่น Mk Restaurant เจ้าใหญ่ที่สุดในไทยที่เลือกใช้ PuduBot (รุ่นเดิม) และ PuduBot 2 (รุ่นใหม่ล่าสุด) โดย PuduBot2 ได้มีการพัฒนาคุณสมบัติและฟังก์ชั่นให้ตอบโจทย์กับการใช้งานมากขึ้น
จุดเด่น PuduBot 2
- โหมดใช้งานหลากหลาย เช่น โหมดจัดส่งอาหาร, โหมดเคลื่อนที่ต่อเนื่อง, โหมดส่งคืนจาน, โหมดวันเกิด
- หน้าจอขนาด 7 นิ้ว แสดงสีหน้าและสถานะการทำงาน
- ถาดรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 10 กิโลกรัมต่อถาด
- ถาดกว้างมากขึ้น และสามารถปรับระดับถาดได้
- มีช่องเชื่อมต่อ USB
- ระบบชาร์จอัตโนมัติ
- อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานถึง 24 ชั่วโมงต่อการชาร์จเพียง 3 ชั่วโมง
- เชื่อมต่อกับ Pudu Watch และ การเรียกผ่านแอพได้
- กันน้ำและฝุ่นได้ ระดับ
PuduBot2 เหมาะกับใคร ?
- ร้านอาหาร
- โรงแรม
- โรงงาน
- อาคาร/สำนักงาน
และนี่ก็คือ 3 รุ่นยอดนิยมที่ธุรกิจร้านอาหารเลือกใช้ ทำความรู้จักกับหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารแต่ละรุ่นแล้ว มาดูประโยชน์ 5 ข้อ เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมาช่วยบริการในร้านกันต่อเลย...
5 ข้อดี เมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้าน
ข้อ 1. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ลดภาระงานที่ทำงานซ้ำๆได้
-
ลดการใช้ทรัพยากรแรงงานที่ทำงานซ้ำๆ เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานเสิร์ฟ และพนักงานเก็บจาน
ข้อ 2. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ทำงานควบกะได้
-
กรณีที่ร้านเปิดให้บริการมากกว่า 8 ชั่วโมงขึ้นไป ไม่จำเป็นต้องจ้างพนักงานเยอะ เพราะการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารสามารถทำงานได้ควบกะทั้งกะเช้าและกะดึก โดยไม่มีหยุดพัก
ข้อ 3. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารมอบประสบการณ์งานบริการใหม่ให้ลูกค้าได้
-
ปัจจุบันหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารได้ถูกออกแบบมาให้มีรูปลักษณ์ที่ทันสมัย มีหน้าตาน่ารักและร่วมสมัยมากขึ้น จะช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าคุณ
ข้อ 4. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยแก้ปัญหา Turn Over ของพนักงานได้
-
หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดอัตรการ Ture Over พนักงานได้ เพราะการใช้หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร หรือส่งของ ช่วยให้พนักงานไม่เหนื่อยล้าเกินไป
ข้อ 5. หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดต้นทุนในระยะยาวได้
-
หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ช่วยลดต้นทุนได้ เพราะหุ่นยนต์สามารถทำงานได้โดยไม่มีหยุดพัก ไม่มีวัน ขาด ลา มาสาย เป็นทางเลือกในการแก้ปัญหาการเทรนพนักงานบ่อยๆอีกด้วย และแก้ปัญหาที่เกิดจากอัตราค่าจ้างแรงงานที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น
สรุป
ได้รู้จักหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารรุ่นยอดนิยม และ 5ข้อดีเมื่อมีหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารบริการในร้านไปแล้ว หากถามว่าอนาคตหุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารจะเข้ามาแทนที่พนักงานเสิร์ฟหรือไม่ ต้องบอกตามตรงเลยว่า มีความเป็นไปได้ เนื่องจากปัญหาต่างๆ เรื่องพนักงาน ต้นทุนและจากการศึกษาหลายๆร้านพบว่า หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหารสามารถใช้แทนคนได้จริง รวมถึงเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น มีความอัจฉริยะมากขึ้น