ระบบนำทางอัตโนมัติ (Autonomous Navigation) หุ่นยนต์ใช้ระบบนำทางด้วย LIDAR, กล้อง 3D และเซ็นเซอร์ต่าง ๆ เพื่อสร้างแผนที่และนำทางภายในอาคาร หุ่นยนต์สามารถจดจำเส้นทางและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้
การสื่อสารกับลิฟต์ (Lift Communication) หุ่นยนต์ต้องสามารถสื่อสารกับระบบลิฟต์ของอาคารได้ โดยผ่านเทคโนโลยี IoT หรือการเชื่อมต่อไร้สาย หุ่นยนต์สามารถเรียกและควบคุมลิฟต์เพื่อย้ายไปยังชั้นต่าง ๆ ตามที่กำหนด
การวางแผนเส้นทาง (Path Planning) หุ่นยนต์สามารถวางแผนเส้นทางการทำความสะอาดโดยอัตโนมัติ รวมถึงการขึ้นลิฟต์และย้ายไปยังชั้นต่าง ๆ เพื่อทำความสะอาดพื้นที่ทั้งหมดของอาคาร
ระบบตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง (Obstacle Detection and Avoidance) เซ็นเซอร์อัลตราโซนิก อินฟราเรด และกล้องความละเอียดสูงช่วยให้หุ่นยนต์สามารถตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การควบคุมและติดตามจากระยะไกล (Remote Control and Monitoring) การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi หรือเครือข่าย IoT ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและตรวจสอบสถานะการทำความสะอาดของหุ่นยนต์จากระยะไกลผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟนหรือคอมพิวเตอร์
เพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาด หุ่นยนต์สามารถทำความสะอาดพื้นที่หลายชั้นได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องใช้แรงงานคนในการย้ายหุ่นยนต์ระหว่างชั้น
ลดต้นทุนแรงงาน การใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดช่วยลดต้นทุนการจ้างแรงงานคนและเวลาในการทำความสะอาดพื้นที่ขนาดใหญ่
ความยืดหยุ่นในการทำงาน หุ่นยนต์สามารถปรับเปลี่ยนเส้นทางและการทำงานตามความต้องการได้ ทำให้การทำความสะอาดมีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อความต้องการของ พื้นที่ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
ปรับปรุงความสะอาดและสุขภาพ การใช้หุ่นยนต์ทำความสะอาดช่วยให้การทำความสะอาดมีคุณภาพและประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดการสะสมของฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกในอาคาร ทำให้สุขภาพของผู้พักอาศัยและพนักงานดีขึ้น