ในยุคที่หุ่นยนต์กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันและภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังการเคลื่อนไหวอย่างแม่นยำและปลอดภัยของหุ่นยนต์คือสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง หนึ่งในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายคือ LiDAR SLAM ซึ่งปัจจุบันถูกนำไปใช้ในหุ่นยนต์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ทำความสะอาด หุ่นยนต์ส่งอาหาร หรือแม้กระทั่งรถยนต์ไร้คนขับ แล้ว LiDAR SLAM คืออะไร และทำไมหุ่นยนต์ถึงเลือกใช้เทคโนโลยีนี้?
LiDAR (Light Detection and Ranging) คือเทคโนโลยีที่ใช้เลเซอร์ในการวัดระยะทางของวัตถุโดยรอบ ด้วยการยิงแสงเลเซอร์ออกไปและวัดเวลาที่แสงสะท้อนกลับมา เพื่อสร้างภาพแผนที่สามมิติของสภาพแวดล้อมโดยรอบ
SLAM (Simultaneous Localization and Mapping) คือกระบวนการที่หุ่นยนต์สามารถกำหนดตำแหน่งของตัวเองในพื้นที่ พร้อมกับสร้างแผนที่ของสภาพแวดล้อมนั้นไปพร้อมกัน
เมื่อนำ LiDAR และ SLAM มารวมกัน หุ่นยนต์จึงสามารถมองเห็นรอบตัวแบบ 360 องศา สร้างแผนที่ได้อย่างแม่นยำแม้ในพื้นที่ที่ไม่มี GPS และสามารถวางแผนเส้นทางหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้แบบเรียลไทม์
มีความแม่นยำสูง เทคโนโลยี LiDAR SLAM ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างมั่นใจแม้ในพื้นที่ซับซ้อนหรือแคบ เช่น โกดังสินค้า โรงพยาบาล หรือห้างสรรพสินค้า
ใช้งานได้ในพื้นที่ที่ไม่มี GPS เหมาะสำหรับพื้นที่ในร่มหรือพื้นที่ที่สัญญาณ GPS เข้าไม่ถึง เช่น อาคารหลายชั้น หรือใต้ดิน
ตรวจจับและหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ดี หุ่นยนต์สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางขนาดเล็ก เช่น กล่อง หรือแม้แต่เท้าคนเดิน และปรับเส้นทางได้ทันที
สร้างแผนที่แบบอัตโนมัติ ช่วยลดเวลาในการติดตั้งหรือวางแผนเส้นทาง เพราะหุ่นยนต์สามารถเรียนรู้พื้นที่ใหม่ ๆ ได้ไวขึ้น
ด้วยประสิทธิภาพและความแม่นยำที่สูง ทำให้ผู้ผลิตหุ่นยนต์ในหลากหลายอุตสาหกรรมเลือกใช้ LiDAR SLAM เป็นเทคโนโลยีหลัก โดยเฉพาะในหุ่นยนต์บริการ เช่น หุ่นยนต์ทำความสะอาดในพื้นที่ขนาดใหญ่, หุ่นยนต์ส่งอาหารในโรงแรม, หุ่นยนต์ขนส่งในโรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงหุ่นยนต์ดูแลในโรงพยาบาล
การใช้ LiDAR SLAM ทำให้หุ่นยนต์ไม่เพียงแค่ "เคลื่อนที่" ได้เท่านั้น แต่ยังสามารถ "เรียนรู้และตัดสินใจ" ได้อย่างชาญฉลาด เหมาะกับยุคที่ความต้องการในระบบอัตโนมัติและหุ่นยนต์มีมากขึ้นเรื่อย ๆ
LiDAR SLAM คือเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้หุ่นยนต์สามารถทำงานได้อย่างชาญฉลาด ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม ด้วยความสามารถในการระบุตำแหน่ง สร้างแผนที่ และหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้แบบเรียลไทม์ จึงไม่แปลกใจที่หุ่นยนต์รุ่นใหม่ ๆ จากแบรนด์ชั้นนำจะเลือกใช้เทคโนโลยีนี้เป็นหัวใจหลักในการทำงาน